Norepinephrine (Levophed) 1 mg/mL (4 mL)
- Pregnancy category: C
ขนาดและวิธีการบริหารยาโดยทั่วไป
การให้ยาแบบ continuous I.V. infusionHypotension, shock and cardiopulmonary resuscitation
เด็ก : ขนาดเริ่มต้น 0.1 mcg/kg/min แล้วค่อยๆ เพิ่มอัตราการหยดยาได้ถึง 2 mcg/kg/min
ผู้ใหญ่ : ขนาดเริ่มต้น 8 – 12 mcg/min (maximum dose : 30 mcg/min)
การผสม ความคงตัวของยา และความเข้ากันได้
- เจือจางยาด้วย D5W หรือ D5S ปริมาตร 100 mL ไม่แนะนำให้เจือจางใน NSS เดี่ยวๆเพื่อป้องกันการสูญเสียความแรงของยาจากปฏิกิริยา oxidation
- ห้ามให้ในสาย I.V. เดียวกันกับเลือดและพลาสมา หรือสารละลายที่เป็นด่าง เช่น sodium bicarbonate
- สารละลายที่เจือจางแล้วจะมีความคงตัว 24 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิห้อง โดยเก็บให้พ้นแสง
- ห้ามใช้สารละลายที่ขุ่นหรือเปลี่ยนเป็นสีชมพู สีเหลืองเข้ม หรือสีน้ำตาล
ข้อปฏิบัติทางการพยาบาล
1. บริหารยาเข้าทางหลอดเลือดดำ โดยใช้ infusion pump เพื่อให้สามารถควบคุมการใช้ยาได้ดี2. เริ่มให้ยาอย่างช้าๆและปรับเพิ่มตามความจำเป็นโดยต้องติดตามดูการตอบสนองของผู้ป่วย การหยุดยาต้องค่อยๆปรับลดลง ห้ามหยุดยาทันที เพื่อป้องกันภาวะความดันเลือดต่ำ
3. ควรให้ยาเข้าหลอดเลือดดำใหญ่ตรง antecubital vein ที่ข้อศอกด้านในหรือให้ยาทางหลอดเลือดดำ femoral ที่หน้าขา ไม่ควรให้ยาโดยวิธี catheter tie-in เพราะจะทำให้เกิดยาคั่งเฉพาะที่
4. วัดความดันโลหิตและชีพจรทุก 2 นาที เมื่อเริ่มให้ยา และวัดทุก 15-30 นาทีเมื่อความดันโลหิตอยู่ในระดับที่ต้องการ (ปกติไม่ต่ำกว่า 90/60 mmHg, SBP 80-100 mmHg หรือ SBP ไม่เพิ่มเกิน 40 mmHg)
5. หลีกเลี่ยงการผสมใน Alkaline solution เช่น KCl , NaHCO3
6. ดูแลการปรับอัตราหยดของยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
7. ควร Monitor EKG ขณะให้ยา บันทึก I/O ติดตามระดับความรู้สึกตัว ประเมิน tissue perfusion v/s ผู้ป่วย
9. รายงานแพทย์เมื่อ
- Bradycardia; pulse < 60 BPM, Hypotension
- ปริมาณปัสสาวะลดลง < 0.5 ml/kg/hr
- มีการรั่วซึมของยาออกนอกเส้นเลือด อาการยาเกินขนาด: หัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ และความดันสูงมาก
No comments:
Post a Comment